หนีไม่พ้น สำหรับโลกลูกหนังเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 เดือนพฤษภาคม ก่อนหน้าที่ผ่านมา น่าจะหนีไม่พ้นการที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
หนีไม่พ้น ข่าวสารดังสำหรับโลกลูกหนัง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 เดือนพฤษภาคม ก่อนหน้าที่ผ่านมา น่าจะหนีไม่พ้นการ ที่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลุ่มหนึ่งถึงกับ ขนาดบุกลงสู่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อคัดค้าน
และก็ขับไสตระกูลเกลเซอร์ ครอบครัวนักธุรกิจ คนประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นเจ้าของทีม กระทั่งท้ายที่สุด เรื่องก็แย่ลงกว่าเดิม ถึงกับขนาดที่จำเป็น ต้องยกเลิกเกม “แดงเดือด” ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ไปเลย
เรื่องที่ว่ามันเป็นความประพฤติปฏิบัติ ที่สมควรของ “เร้ด อาร์มี่” หรือไม่นั้น คงจะจะต้องขึ้น กับมุมมองของแต่ละคน แต่ว่าที่ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ ก็คือเครือญาติเกลเซอร์ มีส่วนนำไปสู่ ประเด็นนี้ขึ้นมา
เนื่องจากว่าพวกเขา เคยคิดที่จะให้ทีม ไปเล่นศึก ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก พร้อมด้วยทิ้งรายการ ระดับทวีปของสมาพันธ์บอลยุโรป (ยูฟ่า) ไปในตัว โดยที่ไม่ถามข้อคิดเห็น ของแฟนคลับก่อนเลย
รวมทั้งหากแม้ โจเอล เกลเซอร์ หนึ่งในประธานร่วม จะยอมคำแถลงขออภัย แม้กระนั้น มันก็ไม่ได้ช่วยอะไร นี่นับเป็นหมาก ที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง ของเครือญาติเกลเซอร์ก็ว่าได้ ด้วยเหตุว่าที่แท้ พวกเขาก็เป็นคนร้าย ในสายตาแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด มานานแล้ว
รวมทั้งในขณะที่ตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา กระแสมันเบาลงไป จากการที่กลุ่ม ส่งผลงานดียิ่งขึ้น แม้กระนั้นพวกเขา กลับทำให้ตนเอง จะต้องโดนต้านทาน มากขึ้นไป อีกด้วยการคิด จะเข้าร่วมศึก ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ซะแบบนั้น
เนื่องแต่กระแสต้านเครือญาติเกลเซอร์ ที่ร้ายแรงขนาดนี้ วันนี้พวกเราเลย จะมาย้อนกลับไปดูกันว่า ในช่วงเวลาที่เครือญาติเกลเซอร์เข้ามาฮุบกลุ่มเมื่อปี 2005 นั้น โจเอล เกลเซอร์ เคยสัญญาสำคัญๆในด้านไหนเอาไว้บ้าง
และก็จนกระทั่งช่วงนี้ สามารถรักษาข้อตกลง เจริญขนาดไหนกัน ดูบอลสดบ้านผลบอล
ขับไล่ตระกูลเกลเซอร์ ครอบครัวนักธุรกิจคนประเทศอเมริกา
หนีไม่พ้น เรียนรู้จากข้อผิดพลาด “ในกลางทางคุณจะได้เรียนรุ้บทเรียน ต่างๆ แน่ๆ ว่าบางเวลาคุณจะทำผิดพลาดได้ แม้กระนั้นคุณจะทำความเข้าใจจากความบกพร่องของคุณ และก็ผมรู้สึกว่าพวกเราได้ศึกษาบทเรียนที่สำคัญมาบ้างแล้ว
ผมมีความรู้สึกว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาพวกเรามองเห็นกันแล้วว่าในแวดวงกีฬานั้นการเป็นเจ้าของทีมมันไม่เคยเรียบง่ายจนกระทั่งขนาดที่ว่าคุณจะพร้อมจัดการกับมันโดยทันที”
น่าอนาถ ตั้งแต่แมื่อที่ เกลเซอร์ เข้ามาเทคโอเวอร์กลุ่มนั้น พวกเขาทำผิดพลาดต่อแฟนบอลหลายต่อหลายครา อย่างเช่นการพยายามขึ้นค่าตั๋วเกินไป หรือการที่โดนยัดเยียดข้อหาว่าบริหารชมรมในทางที่ย่ำแย่
และก็ถึงแม้ว่าจะโดนด่ามาแบบงั้นแม้กระนั้นพวกเขาก็ยังมาทำผิดพลาดเรื่อง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก อีก กล่าวได้ว่าพวกเขาแทบจะไม่เคยทำความเข้าใจจากความบกพร่องจริงๆ ก็ว่าได้
การสื่อสารเป็นเรื่องจำเป็น “มันเกิดเรื่องที่สำคัญมาก ผมขอย้ำว่าแฟนบอล เป็นหล่อเลือด ของชมรม ผู้คนต้องการรู้ว่า มันกำเนิดอะไรขึ้น พวกเขาอยากรู้ว่าชมรม กำลังจะออกเดินทางไปในแนวทางไหน แล้วก็พวกเราก็จะทำติดต่อในทางที่ดี
ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่ประธานบริหารจำเป็นต้องติดต่อกับคนอื่นๆ เสมอๆ เหมือนกันกับคนเป็นที่ปรึกษาที่จำเป็นต้องกระทำการติดต่ออยู่เป็นประจำพวกเราจะกระทำการติดต่อในทางที่สมควร
แม้กระนั้นมันจะไม่มีความเคลื่อนไหวแบบเยอะแยะอะไรนักที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด” ในขณะที่เคยกล่าวแบบนั้น แม้กระนั้นตลอดระยะเวลาก่อนหน้าที่ผ่านมามีน้อยครั้งมากมายที่เชื้อสายเกลเซอร์จะออกมาพูดอะไรด้วยตัวเอง
จำนวนมากแล้วมันจะเป็นหน้าที่ของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานบริหารที่ตระเตรียมจะกล่าวลาทีมในตอนปลายปีนี้ซะมากยิ่งกว่า รวมทั้งการให้ทีมไปเล่น ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก มันก็ไม่ได้ผ่านทางการคุยกับแฟนบอลเลย
ซึ่งที่แท้ขณะที่ออกคำแถลงขออภัยเรื่อง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก นั้น โจเอล ก็ออกมาสารภาพเองว่าที่ผ่านมาชมรมไม่ได้กระทำการติดต่อให้ดีซักเท่าไหร่ มีความตั้งใจจริงสำหรับการทำทีม ในเวลาที่โดนถามคำถามว่าเขาจะเป็นเจ้าของแบบไหนนั้น
โจเอล พูดแบบเสียงดังฟังชัดว่า “ผมจะเป็นเจ้าของกลุ่ม ที่มีอารมณ์ร่วมกับทีมสูงมากมายๆ ผมพูดแบบนั้นได้จากประสบการณ์ของพวกเราสใน แทมป้า (ซึ่งก็คือการเป็นเจ้าของกลุ่ม แทมป้า เบย์ บัคคาเนียร์ส ทืมอเมริกันฟุตบอลมีชื่อเสียง)
ในตอน 10 ปีที่พวกเราเป็นเจ้าของทีมของตรงนั้นน่ะผมไม่เคยพลาดการเข้าชมาเกมสักนัดหมายเดียว” แต่ โจเอล บางทีก็อาจจะหลงผิด ด้วยเหตุว่าความมุ่งมั่นสำหรับในการทำทีมไม่ใช่แค่การเข้ามาดูเกมการแข่งขันชิงชัย
หรือเซ็นเช็คให้ไปทำการซื้อนักฟุตบอล มันควรมีการกำหนดนโยบายที่ดี รวมทั้งกระทำการติดต่อ ประสานงานกับเขตแดน และก็แฟนบอลเพื่อทำให้สมาคมมีความมั่นคงด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าที่ผ่านมาพวกเขาทำเป็นไม่ดีซักเท่าไหร่
แฟนคลับเป็นผู้ครอบครองกลุ่ม “คุณรู้ไหม ในเมืองแทมป้าน่ะ เราะพูดกันอยู่เสมอว่าหากแม้พวกเราจะเป็นเจ้าของกลุ่ม แต่ว่ามันไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของกลุ่มจริงๆ หรอก แฟนลบอลนั่นแหละคือผู้ครอบครองสมาพันธ์
รวมทั้งพวกเราก็เป็นเพียงแต่บุคลากรของสมาคมเพียงแค่นั้น ผมมีความรู้สึกว่าประสบการณ์การทำงานก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาของพวกเราเป็นสิ่งที่จำเป็นมากมายก ที่เมืองแทมป้าผมกล่าวกับทุกคนที่เกี่ยวโยงกับหน่วยงานอยู่เป็นประจำว่าสมาพันธ์ของพวกเรามันมีจุดเริ่มจากแฟนคลับ
เนื่องจากถ้าหากว่าไม่มีแฟนคลับ รวมทั้งการช่วยส่งเสริม แล้วก็อารมณ์ร่วม จากพวกเขาแล้วนั้น มันก็จะไม่มีเกมการประลอง และไม่มีอะไรให้เชียร์ด้วย แม้กระนั้น กระบวนการทำกลุ่มก่อนหน้านี้ ของเชื้อสายเกลเซอร์ มันก็ค่อนข้างจะตรงกันข้าม กับหัวข้อนั้นอย่างยิ่ง
แล้วก็มันก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการที่ “เหล่าผู้ครอบครองกลุ่ม” ออกมาขับไสพวกเขาอย่างหนักในครั้งปัจจุบันด้วย ทีมยอดเยี่ยม