เล่นอย่างเทพ เต็งแชมป์อย่างกองทัพ “ตราไก่” กลุ่มชาติฝรั่งเศส โบกไม้โบกมือลาศึก ยูโร 2020 ตั้งแต่รอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุด
เล่นอย่างเทพ เต็งแชมป์อย่างกองทัพ “ตราไก่” กลุ่มชาติฝรั่งเศส โบกไม้โบกมือลาศึก ยูโร 2020 ตั้งแต่รอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุด แบบสุดพลิกล็อก โดยพ่ายแพ้ดวลจุดลูกโทษต่อ สวิตเซอร์แลนด์ 4-5 ข้างหลังเท่ากันใน 120 นาที แบบสุดมัน 3-3
ซึ่งแจ่มกระจ่างว่า นัดหมายนี้ “เลส์ เบลอส์” มีจุดอ่อนอยู่ที่เกมรับ เนื่องจากว่ามีสกอร์นำถึง 3-1 จนกระทั่งไปสู่ตอน 10 นาทีท้ายที่สุด แม้กระนั้นเปลี่ยนเป็นกระทั่งถึงสกอร์เอาไว้ไม่อยู่เอง และก็นี่เป็นผลจากการสอบของสมาชิก ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ แต่ละคนในแมตช์นี้ ที่ได้รับบทเรียนแบบสุดเจ็บปวด
11 ผู้เล่นตัวจริง อูโก้ โยริส: 7 หากแม้เสียถึงสามประตู แถมไม่ได้ช่วยอะไรเลยในตอนดวลจุดลูกโทษ แต่ว่าอย่างต่ำในตอนเกมการแข่งขันชิงชัยก็มีเซฟลูกจุดลูกโทษของ ริคาร์โด้ โรดริเกซ ราฟาแอล วาราน : 6 ฟอร์มน้อยกว่ามาตรฐานกระจ่าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะที่ปลดปล่อยให้ ฮาริส เซเฟโรวิช ขึ้นกระแทกทำแต้มไล่ขึ้นมา 2-3 ในขณะที่ตนเองเบือนหน้าเข้าพบคู่ปรปักษ์ เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ : 6 เสียเชิงให้ เซเฟโรวิช ในจังหวะเสียประตูแรก ก่อนโดนสลับตัวออกข้างหลังจบครึ่งแรก
นับว่าเป็นเกมที่ไม่ดีนักสำหรับปราการหลังจาก บาร์เซโลน่า เพรสเนล คิมเพมเบ้ : 6 เป็นวันที่เล่นเกมรับหละหลวมอย่างมาก ปลดปล่อยให้คู่ปรับได้โอกาสได้ลุ้นทำแต้มบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะเสียประตูตีเสมอ 3-3 ที่โดน มาริโอ กาฟราโนวิช โยกผ่านง่ายๆ ดูบอลสดบ้านผลบอล
พ่ายแพ้ดวลจุดลูกโทษต่อ สวิตเซอร์แลนด์ 4-5 ข้างหลังเท่ากันใน 120นาที แบบสุดมัน 3-3
เล่นอย่างเทพ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ : 6.5 ที่จริงแล้วมีเกมที่ไม่เลวนัก แถมมีขึ้นมาลุ้นทำคะแนนด้วย แต่ว่าก็ดันมีเสียท่าที่ทำเสียจุดลูกโทษ ปอล ป็อกบา : 9 เป็นเกมที่เจ้าตัวเล่นได้สุดยอดมากๆโดยเว้นแต่ยิงโค้งๆสุดงามในประตูขึ้นนำ 3-1 แล้ว
ยังมีจังหวะเปิดบอลแล้วก็แทงบอลสวยๆหลายครั้ง แถมเป็นผู้เล่นที่ลากเลื้อยพาบอลผ่านนักฟุตบอลคู่แข่งมากสุดในเกมนี้ (5 ครั้ง) แล้วก็ยิงได้เด็ดขาดสุดๆในตอนดวลจุดลูกโทษด้วย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ : 7.5 ไม่ใช่เกมที่เด่นมากมาย
แต่ว่าเชื่อใจได้เรื่องลูกขยัน ก็เลยไม่แปลกใจที่มีสถิติตัดบอลถึง 6 ครั้ง ซึ่งมากสุดเหนือทุกคนในเกมนี้ อาเดรียง ราบิโอต์ : 7
ทำผลงานได้ดีพอสมควรทั้งยังเกมรับแล้วก็รุก แถมได้โอกาสยิงแบบได้ลุ้นด้วย
อ็องตวน กรีซมันน์ : 7 ไม่สะดุดตา แต่ว่าอย่างน้อยมีส่วนสำคัญกับจังหวะที่ทีมได้ประตูกลับนำ 2-1 ที่ได้ยิงไปติดเซฟ ยานน์ ซอมเมอร์ ก่อนที่จะ เบนเซม่า โหม่งซ้ำเข้าไป คาริม เบนเซม่า : 8 ฟอร์มฮอตต่อเนื่อง แล้วก็ชอบโผล่ขึ้นมาในช่วงสำคัญๆ เสมอ
โดยทำประตูช่วยทีมตีเสมอ 1-1 ได้อย่างยอดเยี่ยม ในขณะที่จับบอลจังหวะแรกไม่ดี ก่อนจะโหม่งซ้ำลูกยิงของ กรีซัมนน์ เป็นประตูกลับนำ 2-1 ทว่าถูกสลับตัวออกในช่วงทดเวลา เพราะเหตุว่าดูราวกับว่าไม่มีแรง
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ : 6 แม้มีส่วนสำคัญกับประตูตีเสมอ 1-1 แล้วก็ประตูพลิกนำ 2-1 แม้กระนั้นหัวข้อการจบสกอร์ด้วยตัวเอง นับว่าน่าผิดหวังสุดๆในขณะที่ได้โอกาสไม่น้อย แถมยังสังหารจุดลูกโทษพลาดในตอนดวลเป้า ทำทีมไม่เข้ารอบ
นับว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ไม่น่าจำสำหรับศูนย์หน้าจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่ไม่มีประตูกลับไปอยู่ที่บ้านเลย สำรองที่ได้ลงเล่น – คิงส์เล่ย์ โกมัน (แทน ล็องเล่ต์ น. 46) : 7.5 ปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งขันได้ดี สร้างช่องทางสวยๆ1-2 ครั้ง
แถมได้โอกาสจบเองแบบได้ลุ้นด้วย แต่ว่าโชคร้ายที่เผชิญกับปัญหาเจ็บก่อกวน จนถึงจะต้องถูกสลับตัวออก มุสซ่า ซิสโซโก้ (แทน กรีซมันน์ น. 88) : 6 ไม่อะไรสะดุดตา นอกเหนือจากช่วยเพิ่มความใหม่ในแดนกลาง
โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (แทน เบนเซเม่า น. 94) : 6.5 ได้โอกาสจบสกอร์แบบได้ลุ้นสองครั้ง แต่ว่าก็ยิงได้คมในตอนดวลจุดลูกโทษ มาร์กกุส ตูราม (แทน โกมัน น. 112) : ไม่อาจจะให้แต้มได้ เลือกจะย้าย
